วิธีการเพาะปลูกสับปะรดผลสดที่สามารถสร้างรายได้สูง
เพชรบุรีโมเดลเป็นหนึ่งในโครงการ 76 จังหวัด 76 โมเดล ที่สร้างรายได้สูงจากการปรับปรุงระบบการทำเกษตรตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีเกษตรกรต้นแบบเพาะปลูกสับปะรดผลสด ซึ่งสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง เป็นตัวอย่างของการจัดการการเกษตรที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดยใช้องค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมและทันสมัย โดยในปี 2566 สามารถสร้างรายได้สุทธิสูงถึง 186,650 บาท/ไร่/ปี จึงเป็นโมเดลที่น่าสนใจ โดยทางเกษตรกรยินดีถ่ายทอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเพาะปลูกสับปะรดผลสดคุณภาพสูงที่ประสบความสำเร็จนี้ให้แก่เกษตรกรและบุคคลที่สนใจเพื่อต่อยอดขยายความสำเร็จไปสู่พื้นที่อื่น ๆ
เทคโนโลยีพร้อมถ่ายทอด :
- การเตรียมดิน การปรับปรุงบำรุงดิน การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน การไถดินปรับสภาพ การยกร่องปลูก
- การเตรียมหน่อพันธุ์ การคัดเลือกขนาดหน่อ การชุบหน่อก่อนปลูกเพื่อป้องกันโรค
- การปลูก การเลือกรูปแบบแถวปลูก การกำหนดระยะห่างและจำนวนเพาะปลูกต่อไร่
- การดูแลรักษา ได้แก่ การกำจัดวัชพืช การใส่ปุ๋ยทางดิน การพ่นปุ๋ยทางใบ การฟันใบสับปะรด การพ่นธาตุอาหารเสริมทางใบ การบังคับดอกและการคลุมผล
- การให้น้ำ ระบบบริหารจัดการน้ำที่เหมาะสมในแต่ละระยะการเติบโตของต้นพืช
- การกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช ได้แก่ เพลี้ยแป้ง มดคันไฟ มดหัวโต โรครากเน่าและยอดเน่า
- การเก็บเกี่ยวและวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว ระยะเก็บเกี่ยวสับปะรดตามมาตรฐานความสุกที่กำหนด การเก็บรักษาผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยว
- การตลาด การกำหนดราคาขาย การวางแผนการผลิตและจัดจำหน่ายผ่านช่องทางต่าง ๆ
- ได้รับคัดเลือกให้เป็นโมเดลต้นแบบด้านการทำเกษตรรายได้สูงของจังหวัดเพชรบุรี
- สับปะรดมีขนาดสม่ำเสมอ ออกดอกเร็ว ให้ผลผลิตปริมาณมากและสร้างรายได้สูง
- มีการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเกินความจำเป็นและลดต้นทุนการผลิต
- มีระบบการให้น้ำที่ทันสมัย ช่วยจัดการน้ำที่เหมาะสมในแต่ละระยะการเติบโต
ผู้สนใจรับถ่ายทอดเทคโนโลยีควรมีคุณสมบัติ ดังนี้
- สภาพพื้นที่ ปลูกได้ทุกที่ของประเทศไทย
- แหล่งน้ำ มีปริมาณน้ำเพียงพอหรือมีแหล่งน้ำเสริม เช่น อยู่ในเขตชลประทาน มีน้ำบาดาล เป็นต้น พร้อมทั้งควรติดตั้งระบบการให้น้ำ
- เงินทุน อย่างน้อย 120,000 บาท/ไร่ (กรณีที่ต้องการปลูกสับปะรดพันธุ์ MD2)